ข่าวสารเทคโนโลยี

Dell ประกาศเลิกใช้ “ชิปจีน” ภายในปี 2024 !!

บริษัท เดลล์ เทคโนโลยีส์ (Dell Technologies) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศจะเลิกใช้ชิปที่ผลิตใน “จีน” ภายในปี 2024 และนี่คือสิ่งหนึ่งจากภาคธุรกิจที่สะท้อนผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

หนังสือพิมพ์นิกเกอิเอเชียรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) ว่า Dell ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ PC รายใหญ่อันดับ 3 ของโลกในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้วตามข้อมูลจากสถาบันวิจัย IDC มีแผนที่จะหยุดใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในจีนภายในปี 2024 และได้แจ้งไปยังบริษัทซัปพลายเออร์ให้ลดการใช้ชิ้นส่วนอื่นๆ จากจีนลงด้วย

นโยบายนี้เป็นความพยายามส่วนหนึ่งของ Dell ที่จะขยายห่วงโซ่อุปทานการผลิตออกไปนอกประเทศจีน โดยแหล่งข่าวยืนยันกับนิกเกอิเอเชียว่า Dell ตั้งเป้าหมายที่จะให้ผลิตภัณฑ์ทุกตัว รวมไปถึงสินค้าที่ผลิตโดยซัปพลายเออร์ต่างชาติในจีน ต้องใช้ “ชิปจากภายนอกจีน” ทั้งหมดภายในปี 2024

ขณะเดียวกัน สื่อ Commercial Times ของไต้หวันได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Dell ยังเตรียมที่จะย้ายฐานการผลิตราวๆ 50% ออกนอกประเทศจีนภายในปี 2025

รายงานเหล่านี้สะท้อนภาพความรุนแรงของ “สงครามเทคโนโลยี” ระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน ซึ่งทำให้แบรนด์ระดับโลกหลายเจ้าเลือกที่จะกระจายความเสี่ยง และหันไปสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานใหม่ๆ ในประเทศอื่น อีกทั้งยังทำให้เห็นถึงอุปสรรคที่ภาคการผลิตของจีนกำลังเผชิญอยู่

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าแอปเปิล (Apple) ได้เริ่มย้ายฐานการผลิต MacBooks ไปยังเวียดนาม และคาดว่าแล็ปท็อปล็อตแรกที่ผลิตในเวียดนามจะเริ่มออกสู่ท้องตลาดอย่างเร็วที่สุดในเดือน พ.ค.ปีนี้

เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้อัปเดตมาตรการกีดกันจีนไม่ให้เข้าถึงชิปประมวลผลที่ทันสมัยที่สุด รวมถึงขัดขวางศักยภาพของปักกิ่งในการพัฒนาและใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ตลอดจนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับก้าวหน้าที่จะสามารถใช้งานในด้านการทหารและอาวุธทำลายล้างสูง


ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์