บทความ

เช็คอาการ “โควิดสายพันธุ์ใหม่” วัคซีนสำคัญหรือไม่

ถ้าจะกล่าวถึงโรคติดเชื้อที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นการระบาดของโรคโควิด (COVID-19) ซึ่งกระทบกับทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่องค์กรณ์หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องมีการปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก โดยโรคดังกล่าวได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึงสายพันธุ์โอมิครอน BA.4/BA.5 หรือสายพันธุ์ล่าสุด และตรวจเช็คอาการกันครับ

สำหรับข้อมูลของห้องปฏิบัติการ พบว่า BA.4 และ BA.5 มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง L452R คล้ายสายพันธุ์เดลตา จากข้อมูลจนถึงปัจจุบันพบว่า ความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น และหลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับความรุนแรงของโรค โดยจากข้อมูลในช่วงวันที่ 18-22 มิ.ย. 65 พบว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยพบทั้งหมด 181 ราย ทั้งนี้ ยังพบในผู้เดินทางมาจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศ

โดยอาการของผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.1 และ BA.4/BA.5 ที่เก็บข้อมูลโดยหน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศส โดยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยจำนวนใกล้เคียงกันคือประมาณ 280 – 290 คน โดยรวมแล้วอาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ BA.4/ BA.5 ชัดกว่าผู้ป่วยที่ติดโอมิครอนรุ่นแรก ในทุกอาการที่รายงาน สังเกตจากกราฟสีเขียวสูงกว่าสีชมพูทั้งหมด

อาการที่พบมากกว่า 50% ของผู้ป่วย คือ

  • อ่อนเพลีย
  • ไอ
  • ไข้
  • ปวดศีรษะ
  • น้ำมูกไหล
อาการของโรคที่พบ

เป็นที่น่าสนใจว่า กลุ่มอาการทางเดินหายใจ เช่น หายใจถี่ และ หายใจลำบาก พบได้ในกลุ่ม BA.4/BA.5 เช่นเดียวกัน กลุ่มอาการทางเดินอาหารเช่น อาการท้องเสียก็พบได้มากกว่าในกลุ่ม BA.4/BA.5

แต่ในรายงานก็เขียนไว้ว่า ในบรรดากรณีศึกษาของการติดเชื้อ BA.4 หรือ BA.5 นั้น การรักษาในโรงพยาบาล 12 ครั้ง ไม่มีการรับผู้ป่วยวิกฤติ และไม่มีรายงานการเสียชีวิตในบรรดาผู้ป่วยในโรงพยาบาล 10 รายมีปัจจัยเสี่ยงและระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาลเฉลี่ย 5 วัน

ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นข่าวดีอยู่ครับ เพราะ BA.4 / BA.5 อาจไม่ใช่ไวรัสโอมิครอนที่เปลี่ยนแปลงไปแบบอ่อนเชื้อลง แต่ภูมิจากร่างกายที่ได้รับวัคซีนกันมายังเพียงพอต่ออาการรุนแรงได้อยู่

ดังนั้น การฉีดวัคซีนให้ครบตามประกาศขององค์การอนามัยโลกก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญ ถึงแม้จะไม่เป็นการรับประกันว่าจะปลอดเชื้อได้ แต่ก็ยังคงมีส่วนช่วยไม่ให้เชื้อโรคนี้ ทำอันตรายต่อเราได้

ที่มา : ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา