ข่าวต่างประเทศ

ยูเอ็นพบซากขีปนาวุธ “ฮวาซอง-11” ของเกาหลีเหนือ ในเมืองยูเครนที่ถูกรัสเซียโจมตี

สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผย ในรายงานของผู้สังเกตการณ์ที่ยื่นต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ระบุว่า เศษซากขีปนาวุธที่ถูกยิงเข้าใส่เมืองคาร์คิฟของยูเครนเมื่อต้นปีนี้ เป็นของขีปนาวุธนำวิถีรุ่นฮวาซอง-11 (Hwasong-11) ของเกาหลีเหนือ

ในรายงานความยาว 32 หน้า ผู้สังเกตการณ์สรุปว่า “เศษซากที่เก็บมาจากขีปนาวุธที่ตกลงในเมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2024 มาจากขีปนาวุธชุดฮวาซอง-11 ของเกาหลีเหนือ” และถือเป็นการละเมิดคำสั่งห้ามขนส่งอาวุธเกาหลีเหนือ

ภายในไม่กี่วันหลังการโจมตีเมื่อวันที่ 2 ม.ค. สำนักงานอัยการภูมิภาคคาร์คิฟได้จัดแสดงชิ้นส่วนของขีปนาวุธดังกล่าวแก่สื่อ โดยระบุว่ามันแตกต่างจากขีปนาวุธของรัสเซีย และ “นี่อาจเป็นขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือจัดหามาให้”

ที่ผ่านมา เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหประชาชาติสำหรับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์มาตั้งแต่ปี 2006 และมาตรการเหล่านั้นมีความเข้มแข็งขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงห้ามไม่ให้มีการส่งมอบอาวุธเกาหลีเหนือไปยังประเทศอื่นด้วย

ผู้สังเกตการณ์ 3 คนเดินทางไปยูเครนเมื่อต้นเดือน เม.ย. เพื่อตรวจสอบซากขีปนาวุธที่รัสเซียใช้ในการโจมตีเมืองคาร์คิฟ และไม่พบหลักฐานว่าขีปนาวุธดังกล่าวผลิตโดยรัสเซีย

รายงานระบุว่า “ข้อมูลเกี่ยวกับวิถีที่จัดทำโดยทางการยูเครน ระบุว่ามีการยิงขีปนาวุธจากภายในอาณาเขตของสหพันธรัฐรัสเซีย นั่นหมายความว่า หากขีปนาวุธอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังรัสเซีย ก็อาจจะบ่งบอกถึงการจัดซื้อจัดจ้าง (อาวุธเกาหลีเหนือ) โดยบุคคลสัญชาติสหพันธรัฐรัสเซีย” พวกเขาเสริมว่า นี่จะเป็นการละเมิดมาตรคว่ำบาตรอาวุธเกาหลีเหนือที่บังคับใช้ในปี 2006

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ เคยกล่าวหาเกาหลีเหนือว่าส่งมอบอาวุธให้กับรัสเซียเพื่อใช้ต่อต้านยูเครน แต่ทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือน ก.พ. สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่ายิงขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือส่งมาโจมตียูเครนอย่างน้อย 9 ครั้ง


ที่มา : PPTVHD36