ข่าวสถานการณ์ชายแดนใต้

ผกก.นราฯ แจงอาก้าหายไม่ได้ถูกปล้น แฉทยอยล่องหน คนในส่งปืนให้คนร้าย

ฝ่ายความมั่นคงเร่งสอบปมอาก้า อส.นราธิวาสหาย ตะลึงอาจไม่ใช่แค่ 28 กระบอก ผู้กำกับ สภ.เมือง แฉไม่ได้ถูกปล้น แต่ทยอยล่องหน เช็คในระบบยังพบมีของ ปูดข้อมูลเส้นทางปืน อาจมี “คนใน” ส่งให้คนร้าย

มีรายงานด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 24 พค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส ได้รับแจ้งว่า อาวุธปืนของ อส.เมืองที่อยู่ในกองร้อยได้หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย จึงได้ดำเนินการวิทยุด่วนถึง ผบ.ตร รอง ผบ.ตร ผู้ช่วย ผบ.ตร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอเมืองนราธิวาส และ ผบ.ฉก.นราธิวาส เนื่องจากอาวุธปืน AK 102 จำนวน 28 กระบอก ของกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 สูญหายไป เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลากลางวัน ที่เกิดเหตุบริเวณกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนเมือง นราธิวาช เลขที่ 2 ม.8 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาสหลังได้รับรายงานจึงได้จัดชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลและดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว เนื่องเป็นคดีอุจกรรจ์สะเทือนขวัญ

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.6464 เวลา 14.10 น. นายมะยูโซ๊ะ กูเดะ ปลัดอำเภอเมืองนราธิวาส เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส แจ้งว่า ได้รับมอบอำนาจจากนายยะยาฆ์ ปานาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส ให้มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย จากกรณีดังกล่าว ได้ตรวจสอบกองคลังกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดง อ.เมืองนราธิวาส ที่ 2 พบว่า อาวุธปีน AK 102 จำนวน 28 กระบอก ได้สูญหายไป และคดีนี้ ร.ต.อ.วรกิต กี่ตระกูล รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนราธิวาส ได้รับคำร้องทุกข์นี้ไว้แล้วตามคดีอาญาที่ 262/2564 และจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ความเสียหายเป็นอาวุธปืน AK 102 จำนวน 28 กระบอก ของกองกำลังอาสาสมัคสมัครรักษาดินแดนอำเกอเมืองนราธิวาสสูญหาย สาเหตุอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน

พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เปิดเผยกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า จากการตรวจสอบในสารระบบพบแต่ว่ามีประวัติในการเบิกจ่าย แต่ไม่พบว่า มีปืน ซึ่งเบื้องต้นปืนไม่ได้หายในทีเดียว ซึ่งในการตรวจสอบในสารบบนั้นมีอยู่ แต่พอตรวจสอบจริงๆ ก็พบว่า ปืนไม่ได้มีอยู่จริงตามสาระบบ ซึ่งขณะนี้ยังหาไม่เจอ ซึ่งไม่รู้ว่าใครเบิกไปบ้างต้องมาไล่หาย้อนหลัง ย้อนกลับไปหลังจากทราบ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดก็ได้เข้ามาแจ้งความเอาไว้ก่อน ซึ่งปืนไม่ได้หายไปทีเดียวแต่ปืนมันไม่ค่อยหายไปมันไม่ใช่ลักษณะแบบที่โดนปล้นซึ่งในระบบมีกลุ่มแต่หาปืนไม่เจอ

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้รับรายงานเหตุกรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า ปืนดังกล่าวหายไปจริง นอกจาก อ.เมืองนราธิวาสแล้ว ในพื้นที่ อ.รือเสาะ ศรีสาคร และ อ.สุไหงปาดี ก็มีปืนหายเช่นเดียวกัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนที่หายไปอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้านแหล่งข่าวด้านความมั่นคง ระบุการสูญหายของอาวุธปืนดังกล่าวว่า เป็นผลจากการสืบสวนเบื้องต้น จากการสอบสวนผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ที่ถูกจับกุมคดีลอบโจมตีฐาน ชคต. ที่ให้การรับสารภาพเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ยึดได้หลังการก่อเหตุที่พบว่า เป็นอาวุธปืนของ อส.โดยที่มาที่ไปของอาวุธปืนดังกล่าว ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า อาวุธปืนดังกล่าวได้มาจาก อส.ที่นำมาให้ ไม่ได้มาจากการก่อเหตุแล้วขโมยจาก อส. ทำให้เจ้าหน้าที่เอะใจ จึงได้ทำการตรวจสอบไปยังกองร้อย อส.เมือง ปรากฏว่า อาวุธปืนอาก้าที่อยู่ในความดูแลหายไปร่วม 28 กระบอก โดยที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งการหายไปของอาวุธ AK102 ที่มีจำนวน 28 กระบอกนั้น น่าจะมีคนในรู้และเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดและดูแลคลังอาวุธปืน นำอาวุธปืนออกมาจากคลังเรื่อย ๆ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่า เป็นกลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุหรืออยู่ในคราบเจ้าหน้าที่ขโมยปืนเพื่อไปก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างสถานการณ์ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะเร่งดำเนินการตรวจหาข้อเท็จจริงต่อไป

ที่มา : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/98881-assaultrifle.html